สวัสดีค่ะ ครั้งนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเมืองฮานอยในประเทศเวียดนามกันค่ะ ฟังสำเนียงการออกเสียงได้ที่  รายการสถานีวิทยุศึกษา  FM 92MHz   AM 1161KHz www.moeradiothai.net  รับฟังผ่านดาวเทียมช่อง R31 

Biet Tieng Viet biet den Viet Nam
รู้ภาษาเวียด รู้จักเวียดนาม
โดย  อาจารย์ ดร.พิเชฐ  สายพันธ์
คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

                                                      Di du lich Hà Noi
                                                         ไปเที่ยวฮานอย

Di du lich Hà Noi
(ดี-ซู-หลิก-ห่า-โหน่ย)
ไปเที่ยวฮานอย

สวัสดีครับท่านผู้ฟัง  วันนี้ท่านผู้ฟังเตรียมตัวมาเป็นนักท่องเที่ยว หรือ khách du lich(แค็ก-ซู-หลิก)  กันแล้วใช่ไหมครับ  เราจะเริ่ม di du lich Viet Nam (ดี-ซู-หลิก-เหวียด-นาม)  หรือ  ไปเที่ยวเวียดนาม  โดยเริ่มจากการไปเที่ยวเมือง Hà Noi (ห่า-โหน่ย)  หรือเมืองฮานอย  ตามชื่อรายการของเราวันนี้  เราจึงตั้งชื่อรายการวันนี้ว่า  Di du lich Hà Noi (ดี-ซู-หลิก-ห่า-โหน่ย)  เที่ยวฮานอยกันนะครับ

เริ่มต้นจากสนามบินของเมืองฮานอย  สนามบินของเขามีชื่อเรียกว่า สนามบิน Noi Bài (โหน่ย-บ่าย) 
คำว่าสนามบิน  ก็เรียกว่า son bay (เซิน-ไบ)
ซึ่งมาจากคำสองคำประกอบเข้าเหมือนในภาษาไทยเรา คือคำว่า
son (เซิน)  ซึ่งแปลว่า  สนาม
และคำว่า bay (ไบ)  แปลว่า  บิน
รวมกันเข้าเป็น  son  bay (เซิน-ไบ)  ก็แปลว่า  สนามบิน

ดังนั้นหากจะพูดว่าสนามบินโหน่ยบ่าย  ก็ออกเสียงเป็น  son bay Noi Bài (เซิน-ไบ-โหน่ย-บ่าย)
ถ้าจะพูดว่า  ไปสนามบินโหน่ยบ่าย  ก็ออกเสียงเป็น  di son bay Noi Bài (ดี-เซิน-ไบ-โหน่ย-บ่าย) 
เอาละ  ท่านผู้ฟังก็ไปสนามบินถูกนะครับ  เป็นว่าหลงทางอย่างไรก็มาสนามบินให้ถูกจะได้กลับมาเมืองไทยได้นะครับ

จากสนามบินซึ่งตั้งอยู่นอกเมืองฮานอย  ใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงครับ  จึงจะเข้ามาถึงตัวเมืองฮานอยได้  ตอนนี้รัฐบาลเวียดนามกำลังสร้างทางด่วนใหม่ตัดตรงจากตัวเมืองไปยังสนามบินเลย  ซึ่งหากเสร็จเรียบร้อยในอนาคตอาจใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง  นอกจากจะสะดวกขึ้นแล้ว  นักท่องเที่ยวก็จะได้มีเวลาเที่ยวในเมืองฮานอยได้เพิ่มขึ้นอีก

เมือง ฮานอย หรือที่ชาวเวียดนามออกเสียงกันว่า Hà Noi (ห่า-โหน่ย)  มีฐานะเป็นเมืองหลวงของประเทศเวียดนามปัจจุบัน  จะว่าไปแล้ว  ที่ตั้งของเมืองฮานอยนี้ถือได้ว่าเป็นที่ตั้งเมืองมาแต่โบราณ  เก่าแก่มาก  ซึ่งเมืองสองปีที่แล้ว  คือเมื่อปี ค.ศ. 2010 หรือ พ.ศ. 2553 ที่ผ่านมา  ฮานอยพึ่งจะฉลองอายุครบรอบฐานะของการเคยเป็นที่ตั้งเมืองหลวงของเวียดนามได้ครบหนึ่งพันปีมาแล้วนะครับ  นับได้ว่าเป็นเมืองที่เคยมีฐานะเป็นเมืองหลวงเก่าแก่เมืองหนึ่งของบรรดาประเทศในภูมภาคอาเซียนเราเลยทีเดียว  ปัจจุบันทางการเวียดนามได้พยายามบูรณะซากเมืองโบราณนี้ขึ้นมา  ซึ่งก็ตั้งอยู่ใจกลางฮานอยเลยทีเดียว  เป็นตำแหน่งของพระราชวังหลวงแต่เมื่อครั้งอดีต  และได้รับการยกย่องจากองค์กรยูเนสโกให้เป็นแหล่งมรดกทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกแหล่งหนึ่งของโลก  หากคุณผู้ฟังได้ไปเที่ยวฮานอย  ก็อย่าลืมไปดูซากเมืองโบราณนี้นะครับ

ที่ตั้งของเมืองฮานอย  ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของเวียดนาม  ภาษาเวียดนามเรียกภาคเหนือว่า  mien bac (เหมี่ยน-บั๊ก)
คำว่า mien (เหมี่ยน)  แปลว่า ภาค 
คำว่า bac (บั๊ค)  แปลว่า  เหนือ
mi?n bac (เหมี่ยน-บั๊ก)  จึงมีความหมายว่า  ภาคเหนือ
ถ้าเราพูดว่า  mien bac Viet Nam (เหมี่ยน-บั๊ก-เหวียด-นาม)  ก็จะแปลได้ว่า  ภาคเหนือเวียดนาม นั่นเอง
ถ้าเราอยากจะพูดว่า  "ฮานอยอยู่ภาคเหนือของเวียดนาม"  ก็สามารถพูดได้ว่า
Hà Noi ? mien bac Viet Nam (ห่า-โหน่ย-เอ่อ-เหมี่ยน-บั๊ก-เหวียด-นาม)
มีคำว่า o (เอ่อ) เพิ่มเข้ามา  คำนี้เป็นบุพบทหรือคำเชื่อม  มีความหมายว่า "อยู่"
และที่ตั้งเมืองฮานอยก็ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแดง  ซึ่งถือว่าเป็นแม่น้ำสำคัญของภาคเหนือของเวียดนามทีเดียว  เหมือนกับเมืองกรุงเทพฯ ของเราก็ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

แม่น้ำแดง ที่จริงไม่ใช่ว่าแม่น้ำเป็นสีแดงนะครับ  แต่เป็นเพราะแม่น้ำนี้มีตะกอนขุ่นข้นมากแต่เป็นตะกอนทรายด้วยจึงไม่ข้นเป็นสีดำก็จะออกเป็นน้ำตาลแดง  คล้ายกับแม่น้ำโขงของเราที่พูดกันว่า โขงสีปูน  คือสีปูนแดงที่คนแก่กินหมากกันสมัยก่อน  แม่น้ำแดงนี้ชาวไทยเรามาแปลชื่อเป็นภาษาไทยตามฝรั่งที่เรียกชื่อแม่น้ำนี้ว่า "Red River” คนไทยก็เอาคำว่า red มาแปลเป็น สีแดง 
แต่อันที่จริงชาวเวียดนามเรียกแม่น้ำนี้ว่า  sông Hong (ซง-ห่ง)  มาจากคำว่า
sông (ซง)  ที่แปลว่า แม่น้ำ
และคำว่า  Hong (ห่ง)  ที่แปลว่า แดงฉาน

คือคำว่า hong (ห่ง) ในภาษาเวียดนามเป็นคำที่มีความหมายลึกซึ้งมาก  รากศัพท์มาจากภาษาจีน  คำนี้มีความหมายเชิงจิตวิญญาณด้วย  และมักไว้ใช้เรียกอะไรที่เป็นสีออกแดงๆ แต่สะท้อนความหมายเชิงจิตวิญญาณ  ชาวเวียดนามมีคำที่ใช้เรียกสีแดงเฉยๆ ว่า do (ด่อ)  แต่สีแดงที่ไว้ใช้เรียกชื่อเฉพาะที่มีความหมายระดับลึกเชิงจิตวิญญาณคือคำว่า hong (ห่ง) นี่แหละครับ  อันแรกเขาเอาไว้เรียกแม่น้ำแดงว่า sông Hong (ซง-ห่ง)  ไม่ใช่ sông do (ซง-ด่อ)  เพื่อจะหมายถึงว่าเป็นแม่น้ำสีออกแดงและเป็นแม่น้ำชีวิตแม่น้ำแห่งจิตวิญญาณของชาวเวียดนาม 

อีกคำนึงเอาไว้เรียก ธงชาติเวียดนาม  ถ้าเรียกว่า co Hong (เก่อ-ห่ง)  ก็จะหมายถึงธงชาติเวียดนาม  จะไม่เรียก co do (เก่อ-ด่อ)  เพราะ co Hong (เก่อ-ห่ง) จะมีความหมายสะท้อนถึงธงที่เป็นจิตวิญญาณของเวียดนามก็คือธงชาติ  เพราะธงชาติเวียดนามจะมีพื้นธงเป็นสีแดง 

แม่น้ำแดง  หรือ sôg Hong (ซง-ห่ง)  นี้ก็เป็นแม่น้ำที่กว้างมากและเวลาถึงฤดูน้ำหลาก  น้ำก็จะเอ่อขึ้นมาท่วมตลิ่ง  ทำให้ริมตลิ่งอุดมสมบูรณ์  ดังนั้นที่ราบลุ่มแม่น้ำแดงของเวียดนามก็ถือว่าเป็นที่ราบลุ่มอันอุดมสมบูรณ์มาก  ชาวเวียดนามก็จะปลูกข้าว  และปลูกผัก  เป็นส่วนใหญ่  เวลาไปเวียดนามผมชอบทานผักเวียดนามมากเพราะรสชาดอร่อยเหลือเกิน  คงเป็นเพราะเป็นผักที่ปลูกจากตะกอนแม่น้ำแดงที่พัดพามาถมทุกปีนี่เอง