บทความ
แถลงความก้าวหน้า 5 นโยบายเร่งด่วน ศธ.
ดร.วีระ แข็งกสิการ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ชี้แจงความก้าวหน้าการขับเคลื่อน 5 นโยบายเร่งด่วนของศธ. ประกอบด้วย สถานศึกษาปลอดภัย การแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา อาชีวะอยู่ประจำเรียนฟรี มีอาชีพ โรงเรียนคุณภาพ และพาน้องกลับมาเรียน กศน.ปักหมุด ซึ่งแต่ละนโยบายมีผลสำเร็จและภารกิจที่จะต้องเร่งขับเคลื่อนต่อไป ซึ่งขณะนี้ดำเนินการติดตามและพบตัวนักเรียนที่หลุดนอกระบบการศึกษาแล้ว 98,060 คน จากทั้งหมด 121,642 คน โดยสามารถนำกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาแล้ว 51,766 คน ขณะที่ไม่ประสงค์กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา 30,755 คน โดยมีสาเหตุเนื่องจากจบการศึกษาภาคบังคับและไม่ประสงค์เข้าเรียนต่อ อายุพ้นเกณฑ์และไม่ประสงค์จะเรียนต่อ ความจำเป็นทางครอบครัว ย้ายถิ่นที่อยู่ การคมนาคมไม่สะดวก เสียชีวิต เป็นต้น นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการติดตามตัว จำนวน 5,628 คน และติดตามตัวแล้วไม่พบ 17,954 คน โดยประเด็นนี้ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ได้กำชับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการติดตามตัวนักเรียนนักศึกษากลับเข้าสู่ระบบการศึกษาให้ครบถ้วนภายในภาคเรียนนี้
ปลัดศธ.กล่าวต่อไปว่า ส่วนแนวทางและมาตรการป้องกันไม่ให้นักเรียน นักศึกษาที่เข้าสู่ระบบการศึกษาแล้วหลุดออกนอกระบบอีกนั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ทั้งระบบการช่วยเหลือนักเรียน ระบบการติดตาม การเข้าถึงปัญหาของนักเรียน ซึ่งน.ส.ตรีนุช มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และหน่วยงานในสังกัด ร่วมพูดคุยกับครูประจำชั้น เพื่อให้เข้าไปศึกษาดูแลนักเรียนเป็นรายบุคคลว่ามีปัญหาในส่วนใดหรือไม่และหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที ไม่ว่าเป็นปัญหาซึมเศร้า ปัญหาความเครียด ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ปัญหาครอบครัว เป็นต้น พร้อมกับประสานกับหน่วยงานอื่นๆ หรือจังหวัดเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
สำหรับการขับเคลื่อนเกี่ยวกับโรงเรียนคุณภาพนั้น ในการพัฒนาสถานศึกษายกระดับให้เป็นโรงเรียนคุณภาพ ขณะนี้ได้กลุ่มเป้าหมายเป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษาจำนวน 10,480 แห่ง ระดับมัธยมศึกษาจำนวน 1,155 แห่ง และโรงเรียนพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร หรือโรงเรียน stand alone จำนวน 1,303 แห่ง รวมทั้งสิ้น 12,938 แห่ง โดยขณะนี้ได้โรงเรียนคุณภาพที่เป็นโรงเรียนหลักแล้ว 183 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งจะมีโรงเรียนระดับประถมศึกษา และโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา เป็นโรงเรียนเครือข่ายครอบคลุมโรงเรียนกลุ่มเป้าหมาย” ดร.วีระ กล่าว
...เดลินิวส์