ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) เปิดเผยผลการประชุม กอปศ.ว่า ที่ประชุมมีมติแต่งตั้ง รศ.ดารณี อุทัยรัตนกิจ เป็นรองประธานคนที่ 1 ผศ.นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ เป็นรองประธานคนที่ 2 และเป็นประธานอนุกรรมการปฏิรูปโครงสร้างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา รศ.ศิริเดช สุชีวะ เป็นประธานอนุกรรมการครูและอาจารย์ และรศ.นพ.จิรุตม์ ศรีรัตนบัลล์ เป็นประธานอนุกรรมการเฉพาะกิจศึกษาแนวทางการจัดทำพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
    
          ประธาน กอปศ. กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมได้นำข้อสรุปที่ได้จากการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ มาวางแผนการเดินหน้าปฏิรูปการศึกษาในภาพรวม โดยได้กำหนดเป้าหมายการขับเคลื่อนไว้  4 เป้าหมายหลัก ได้แก่ 1.ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ซึ่งมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องทั้งเรื่องโอกาสการเข้าถึง,โอกาสในการได้รับทางเลือกในการศึกษา และการเรียนรู้พัฒนาที่เหมาะสมกับศักยภาพของผู้เรียน และโอกาสในการได้รับประโยชน์ในการเรียนรู้ได้ตามความถนัด โดยขณะนี้ที่คืบหน้าแล้วคือ ร่างพ.ร.บ.กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา และคาดว่าจะประกาศใช้ในเดือนเมษายน 2561 ตามกรอบเวลาที่กำหนด

          เป้าหมายที่ 2.คุณภาพการศึกษาดีขึ้น ทั้งการยกระดับการศึกษาให้ผู้เรียนมีสมรรถนะที่พึงประสงค์ ตามความต้องการของตนเองและประเทศ โดยเฉพาะจะต้องเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่เน้นส่งเสริมเรื่องคุณธรรม จริยธรรม มีความรัก สามัคคี ปรองดอง และไม่ทุจริต โดยมุ่งเน้นปรับค่านิยมให้เกิดทั้งต่อตัวบุคคล ครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติ 3.มุ่งความเป็นเลิศและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งจะเน้นกลุ่มอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา และ 4.ปรับปรุงระบบการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มความคล่องตัว ในการรองรับความหลากหลายในการจัดการศึกษา การมีธรรมาภิบาล ความโปร่งใส สร้างความรับผิดชอบ และนำสื่อดิจิทัลมาใช้ในการปรับปรุงการเรียนการสอน ทั้งนี้ จะต้องนำผลไปรวมกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ และคณะกรรมการปฏิรูปด้านอื่นๆ ซึ่งมีระยะเวลาในการทำงาน 5 ปี แต่เนื่องจาก กอปศ.มีระยะเวลาในการทำงาน 2 ปี โดยปัจจุบันทำงานมาแล้วราว 6 เดือน ดังนั้น การทำงานจะต้องเห็นผลทั้งในช่วงเวลาที่เหลืออีก 1 ปีครึ่ง และในอีก 5 ปีข้างหน้า....

























...เดลินิวส์